เมนู

3. ราชสูตร



[331] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
แห่งท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.
ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่
ประทับ ครั้นแล้วจึงทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วประทับนั่ง ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ผู้ที่เกิดมาแล้วที่พ้นจากชราและมรณะมีอยู่บ้างหรือไม่.
[332] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนมหาบพิตร คนเกิด
มาแล้วที่จะพ้นจากชรามรณะไม่มีเลย แม้กษัตริย์มหาศาลซึ่งเป็นผู้มั่งคั่ง มี
ทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีทองและเงินมากมาย มีทรัพย์เครื่องปลื้มใจมากมาย
มีทรัพย์คือข้าวเปลือกมากมาย ก็ไม่พ้นจากชรามรณะ แม้พราหมณ์มหาศาล
ซึ่งเป็นผู้มั่งคั่ง ฯลฯ ก็ไม่พ้นจากชรามรณะ แม้คฤหบดีมหาศาล ก็ไม่พ้นจาก
ชรามรณะ ภิกษุแม้ทุกรูป ซึ่งเป็นพระอรหันต์ สิ้นอาสวะแล้ว อยู่จบ
พรหมจรรย์แล้ว กระทำกรณียะเสร็จแล้ว วางภาระหนักลงได้แล้ว ได้บรรลุ
ประโยชน์ของตนแล้ว สิ้นกิเลสเครื่องประกอบไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นแล้ว
เพราะรู้โดยชอบ ร่างกายนี้แม้แห่งพระอรหันต์เหล่านั้น ก็เป็นสภาพแตกดับ
ต้องทอดทิ้งเป็นธรรมดา.
[333] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์
คำร้อยแก้วนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า